Thursday, July 14, 2011

แก้วมังกร ภาคเจ๊ง


มาเล่าเรื่องแก้งมังกรกันดีกว่า  จะว่าไปก็เดิมๆ แหล่ะครับ เป็นพืชที่ปลูกแล้วได้ผลผลิตค่อนข้างเร็ว คือประมาณ 1 ปี ก็ ออกลูก ขายกันได้ ประสบการณ์ตรงอีกแล้วครับ

เมื่อแรกเริ่ม ปลูกแก้วมังกรเป็นเจ้าแรกๆ ใน อ.ภูเรือ ครับ ผลผลิตล็อตแรก เป็นที่สนใจมาก เพราะแก้วมังกร เป็นผลไม้ที่แปลกใหม่ ในแถบนี้ ทั้งยังมีรสชาดหวานๆ เปรี้ยวนิด พอประมาณ เมื่อประมาณ  6-7 ปีที่ผ่านมา แก้วมัง ราคาดีมาก อยู่ที่ราว 30 บาท/กก. นี่ราคาออกจากสวนเลยนะครับ ปลูกแค่ร้อยหลัก  อาทิตย์หนึ่งเก็บได้ 1 ครั้ง รายได้ ตกอาทิตย์ละ 60,000 บาท รายได้ดีทีเดียวเลยใช่ไหมครับ ตอนนั้นก็ขยายสวนปลูกเพิ่มไปด้วย ขายกิ่งพันธุ์ไปด้วย สนุกครับเห็นตัวเงินแล้วก็หายเหนื่อย พอคนเริ่มรู้จัก ก็เริ่มปลูกตามๆกันเหมือนทุกครั้งนั่นแหล่ะครับ

พอนึกออกแล้วใช่ไหมครับ เกิดอะไรขึ้น 5555
เหมือนทุกๆครั้งครับ เจ๊งครับ ตอนนี้ปลูกหลายร้อยหลัก รายได้แค่หมื่นต้นๆ หรือไม่กี่พัน ในบางงวด

เฮ่ออ  ตอนนี้แก้วมังกรจากสวน ลูกเล็ก กก. ละ 3-5 บาท  ลูกใหญ่ กก. ละ 8 บาท
เหนื่อยกับราคาจังเลยครับ ต่อไปอนาคตแก้วมังกรจะเป็นยังไงหนอ

Monday, July 11, 2011

กระทกรกภาคเจ๊ง


ต่อมาจากภาคที่แล้ว กระทกรกภาคทำเงิน คนที่เริ่มปลูกกระทกรกเจ้าแรกๆ ก็ร่ำรวยกันไป ซื้อรถ ได้บ้าน ไปเรียบร้อย พอเริ่มมีคนเห็นว่า กระทกรกคือตัวเงินตัวทอง คนก็เริ่มเห่อเจ้ากระทกรกขึ้นมากันทั้งอำเภอกันเลยทีเดียว กล้ากระทกรกขายดิบขายดี จากที่เคยทำข้าวโพด ขิง หรือพืชการเกษตรอื่นๆ ก็หันมาทำ กระทกรกกันหมด ใครๆ ก็หวังจะรวยด้วยกระทกรก ชาวบ้านต่างพากันตัดต้นไผ่ ที่มีอยู่ตามริมลำธารที่เคยร่มรื่นกลายเป็นโล่งเตียน ไม้ไผ่ที่ว่าเอามาทำเป็นค้างกระทกรก  และแน่นอนที่สุด ไม้ไผ่ก็ราคาแพงไปด้วย

กระทกรกเป็นพืชอายุสั้น ให้ผลผลิตไว ประมาณ 8 เดือน ก็ออกผลผลิต
ปีที่แล้ว กระทกรก กิโลกรัมละ ประมาณ  12 บาท
และแน่นอน เมื่อผลผลิต ออกสู่ตลาดมากขึ้น ราคา ย่อมตกต่ำลง  ข้อนี้เป็นความรู้ง่ายๆ ที่เกษตกรส่วนใหญ่ไม่เคยคิดถึงเลย หรืออาจจะรู้แต่ก็คิดว่าเอาน่า ตลาดยังมีพื้นที่อีกเยอะ

ผลเป็นไปตามที่คาดคิด คนส่วนใหญ่ในพื้นที่ปลูกกระทกรกกันแทบจะทุกหลังคาเรือน ปลูกคนละหลายร้อยหลัก หลายไร่ และทุกคนคิดว่า คราวนี้ รวยแน่ๆ ผลผลิตออกมาพร้อมๆกัน เยอะมากกกกกกกก

คนรับซื้อกระทกรกยิ้มแฉ่ง  สวยเลือกได้แล้วปีนี้  กระทกรกจากกิโลกรัมละ 12 บาท ลดลงมาเรื่อยๆ จนถึง กิโลละ บาท เลือกเฉพาะลูกสวยๆ โตๆ เท่านั้น  ชาวสวนเริ่มหน้ามืด  เวียนหัว อ้าวแล้วค่าปุ๋ยที่ซื้อด้วยเงินเชื่อมา ค่าเสาไม้ไผ่ ค่าเชือกขึงทำค้าง ยาฆ่าหญ้าอีก นี่ยังไม่คิดค่าแรงเลยนะ ค่าจ้างคนปลูกอีก โอยยยจะเป็นลม

ปัจจุบันอนุสรณ์สถานเหล่านั้น(ค้างกระทกรก)ถูกทิ้งร้างไว้ข้างถนน ผลกระทกรกที่ไม่มีใครมารับซื้อ และไม่มีการแปรรูปเพื่อขายเลย ...ว่าแล้วก็คิดไปถึงงานแก้วมังกรที่จะจัดขึ้นเร็วๆนี้ที่........ น่าจะเอากระทกรกมามีส่วนร่วม เพื่อแก้ไขปัญหากระทกรกขายไม่ออกบ้างนะ  น่าอ่อนใจที่ไม่มีคนที่มีวิสัยทัศน์ อยู่ในองค์กรที่จะมาช่วยเหลือปัญหาเหล่านี้เลย  เพราะจุดเด่นของงานนี้ก็คงจะมีแค่ การแข่งขันกินแก้วมังกร และหมอลำซิ่ง เฮ้อ คิดแล้วอ่อนเพลีย

ปล. สรุปว่าปีนี้ ข้าวโพดและขิง มีราคา เพราะคนปลูกน้อย  เมื่อไม่นานมานี้มันสำปะหลังราคาดี คนแห่กันปลูกอีกแล้ว คนปลูกทีหลังเตรียมเจ๊งแน่นอนหมอมีฟันธง อิอิ